top of page

เมื่อใดที่ควรพิจารณารีไฟแนนซ์รถยนต์? สัญญาณที่บ่งชี้ว่าถึงเวลาแล้ว

ree

การเป็นเจ้าของรถยนต์นั้นมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ขณะเดียวกันก็อาจเป็นภาระทางการเงินที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ การผ่อนชำระค่างวดรถยนต์เป็นหนึ่งในรายจ่ายประจำเดือนที่สำคัญ ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินได้ ในบทความนี้ เราจะมาพิจารณาถึงสถานการณ์และสัญญาณต่างๆ ที่บ่งชี้ว่า การรีไฟแนนซ์รถยนต์ อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ


ทำความเข้าใจ "การรีไฟแนนซ์รถยนต์"


ก่อนที่เราจะลงลึกถึงสัญญาณต่างๆ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร โดยสรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์รถยนต์คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่ จากสถาบันการเงินแห่งเดิมหรือแห่งใหม่ เพื่อ ชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์ก้อนเดิม ที่ยังผ่อนชำระอยู่ให้หมดไป วัตถุประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์คือการ ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระ ให้ดีขึ้น เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันของคุณมากยิ่งขึ้น


สัญญาณที่บ่งชี้ว่าควรพิจารณารีไฟแนนซ์รถยนต์


มีหลายสถานการณ์ที่การรีไฟแนนซ์รถยนต์สามารถเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณบริหารจัดการการเงินได้ดียิ่งขึ้น พิจารณาสัญญาณเหล่านี้:


1. อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาด


หากคุณรู้สึกว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ที่คุณกำลังผ่อนชำระอยู่นั้นค่อนข้างสูง หรือคุณสังเกตเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ในตลาดมีการปรับลดลง อย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสัญญาณแรกที่ควรพิจารณารีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์ในกรณีนี้จะช่วยให้คุณสามารถขอสินเชื่อใหม่ที่มี อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ซึ่งจะส่งผลให้:

  • ค่างวดต่อเดือนลดลง: คุณจะมีเงินสดเหลือในแต่ละเดือนมากขึ้น เพื่อใช้จ่ายในส่วนอื่นหรือเก็บออม

  • ลดภาระดอกเบี้ยรวม: หากค่างวดยังคงเดิม คุณสามารถนำส่วนต่างของค่างวดไป โปะเงินต้น ได้มากขึ้น ทำให้ผ่อนชำระหนี้หมดเร็วขึ้น และประหยัดดอกเบี้ยโดยรวมได้


2. ภาระผ่อนชำระต่อเดือนสูงเกินกำลัง


ในบางช่วงชีวิต ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มสูงขึ้น หรือรายได้อาจลดลง ทำให้ค่างวดรถยนต์ที่เคยผ่อนชำระได้อย่างสบายๆ กลายเป็นภาระที่หนักอึ้งและส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของคุณ

หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ การรีไฟแนนซ์สามารถช่วยได้ โดยการ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ออกไปให้นานขึ้น (เช่น จากเดิม 5 ปี เป็น 7 ปี) ซึ่งจะส่งผลให้ ค่างวดต่อเดือนลดลง ทำให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นและสามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องพึงระลึกไว้คือ การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระมักจะหมายถึง การจ่ายดอกเบี้ยโดยรวมที่มากขึ้น ตลอดอายุสัญญา ดังนั้น คุณควรประเมินให้รอบคอบว่าการลดภาระต่อเดือนในปัจจุบันคุ้มค่ากับการจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวหรือไม่


3. มีความต้องการใช้เงินก้อนฉุกเฉินหรือมีค่าใช้จ่ายจำเป็น


ชีวิตมักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือโอกาสในการลงทุนที่ต้องใช้เงินก้อน หากคุณต้องการเงินสดจำนวนหนึ่งและไม่มีแหล่งเงินทุนอื่นที่เหมาะสม การรีไฟแนนซ์รถยนต์อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

โดยปกติแล้ว หากรถยนต์ของคุณผ่อนชำระมาได้ระยะหนึ่ง มูลค่าคงเหลือของรถยนต์ มักจะสูงกว่า ยอดหนี้คงเหลือ ที่คุณต้องชำระ เมื่อคุณรีไฟแนนซ์ คุณสามารถ ขอวงเงินกู้ใหม่ที่สูงกว่ายอดหนี้เดิม ได้ และส่วนต่างของวงเงินกู้นี้คือเงินสดที่คุณจะได้รับไปใช้ตามความจำเป็น

อย่างไรก็ตาม การใช้เงินก้อนที่ได้จากการรีไฟแนนซ์ควรเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ จำเป็นและก่อให้เกิดประโยชน์ และคุณต้องมั่นใจว่าคุณสามารถ ผ่อนชำระหนี้ก้อนใหม่ได้โดยไม่เกิดปัญหา ในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างภาระที่หนักอึ้งกว่าเดิม


4. ต้องการรวมหนี้สินหลายรายการให้เหลือเพียงแหล่งเดียว (Debt Consolidation)


หากคุณกำลังประสบปัญหาในการจัดการหนี้สินหลายประเภท เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล นอกเหนือจากค่างวดรถยนต์ การรีไฟแนนซ์รถยนต์สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการ รวมหนี้ ได้

หลักการคือ คุณสามารถขอวงเงินรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ครอบคลุม ยอดหนี้คงเหลือของรถยนต์ บวกกับ ยอดหนี้สินอื่นๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า (เช่น หนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 16-25% ต่อปี) จากนั้นนำเงินที่ได้ไป ชำระหนี้สินเหล่านั้นให้หมดสิ้น ส่งผลให้คุณเหลือภาระผ่อนชำระเพียง ค่างวดรถยนต์ที่รีไฟแนนซ์แล้ว เท่านั้น

วิธีนี้จะช่วยให้คุณ บริหารจัดการหนี้สินได้ง่ายขึ้น ลดความสับสนเรื่องวันครบกำหนดชำระหลายรายการ และหากสินเชื่อรีไฟแนนซ์มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้สินเดิมที่รวมเข้ามา ก็จะช่วยให้คุณ ประหยัดดอกเบี้ยโดยรวม ได้อีกด้วย


5. ต้องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอื่นๆ ในสัญญา


นอกเหนือจากเรื่องอัตราดอกเบี้ยและค่างวดแล้ว บางครั้งคุณอาจมีความต้องการที่จะ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเฉพาะอื่นๆ ในสัญญาเงินกู้ซื้อรถยนต์เดิม เช่น:

  • ต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันภัย: หากคุณไม่พึงพอใจกับบริษัทประกันภัยที่ไฟแนนซ์เดิมกำหนดมา คุณสามารถเลือกรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่ให้คุณเลือกบริษัทประกันภัยเองได้

  • ต้องการวงเงินเพิ่มเพื่อตกแต่งหรือซ่อมบำรุงรถ: หากคุณมีแผนที่จะตกแต่งรถยนต์ หรือมีความจำเป็นต้องซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ การรีไฟแนนซ์อาจเป็นช่องทางหนึ่งในการขอวงเงินเพิ่มเติมเพื่อจุดประสงค์เหล่านี้


ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์


แม้ว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมีประโยชน์หลายประการ แต่คุณก็ควร พิจารณาอย่างรอบคอบ และทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ก่อนตัดสินใจ:

  • ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์: อาจมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าอากรแสตมป์ ค่าประเมินราคารถยนต์ ค่าธรรมเนียมการโอนเล่มทะเบียน หรือค่าปรับการปิดบัญชีก่อนกำหนดกับสถาบันการเงินเดิม (หากมี)

  • ระยะเวลาผ่อนชำระรวม: การรีไฟแนนซ์เปรียบเสมือนการเริ่มต้นสัญญาเงินกู้ใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ระยะเวลาการผ่อนชำระรวมยาวนานขึ้น และอาจทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้นมากขึ้นในระยะยาว

  • คุณสมบัติผู้กู้และสภาพรถ: สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อที่แตกต่างกัน รวมถึงอายุรถยนต์และประวัติเครดิตของผู้กู้


สรุป: เมื่อใดที่ควร "รีไฟแนนซ์" รถยนต์


การตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์ควรอยู่บนพื้นฐานของการ วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และ เปรียบเทียบข้อเสนอ จากสถาบันการเงินต่างๆ อย่างถี่ถ้วน คุณควรรีไฟแนนซ์เมื่อ:

  • อัตราดอกเบี้ยใหม่ต่ำกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ

  • ต้องการลดภาระค่างวดต่อเดือน เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

  • มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนฉุกเฉิน หรือรวมหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า

  • ต้องการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญา ให้เหมาะสมกับความต้องการปัจจุบัน

คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ หรือเจ้าหน้าที่จากสถาบันการเงินที่คุณสนใจ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมและเปรียบเทียบข้อเสนอต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญนี้

บริการรับรีไฟแนนซ์รถยนต์โดย โตโยต้า ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด


โปรแกรมสบายแคช สินเชื่อสำหรับคนมีรถไม่ว่าคุณจะมีรถยี่ห้อใด เราพร้อมจะแบ่งเบาภาระ และเสริมสภาพคล่องให้คุณ

  • รับเงินภายใน 1 วัน เมื่อไฟแนนซ์ผ่าน และเอกสารครบ

  • ผ่อนนานสุด 84 เดือน

  • รับรถทุกยี่ห้อ ยกเว้น เชฟโรเลต โปรตอน รถจดป้ายเหลือง และมอเตอร์ไซด์

  • วงเงินสูงถึง 95% จากราคาประเมินกลาง

  • ดอกเบี้ยต่ำมาก เริ่มต้น 4.60% ต่อปี

  • ไม่ต้องจอดรถ

  • รับเงินได้เลย ไม่เสียเวลารอโอนเล่มทะเบียน

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องเครดิตไม่ดี มีทีมงานให้คำปรึกษาและดันทุกเคส

  • ไม่ต้องมีคนค้ำ

  • บริการทำสัญญาทั่วประเทศ


สนใจรับคำปรึกษาเรื่องรีไฟแนนซ์รถยนต์ฟรี คลิกเลย

 
 
 

Comments


Commenting on this post isn't available anymore. Contact the site owner for more info.
bottom of page